About thebetter

This author has not yet filled in any details.
So far thebetter has created 19 blog entries.

Halide | Grid และ Level ตัวช่วยให้ถ่ายภาพง่ายขึ้น

บางครั้งการกะระยะเส้นตรงด้วยสายตาของเราก็อาจจะผิดพลาดได้ Halide มีตัวช่วยอย่าง Grid หรือเส้นแบ่งแบบจุดตัดเก้าช่องมาให้ด้วย พร้อมกับการวัดระดับน้ำ หรือ Level ตัวช่วยให้ผู้ใช้สะดวกในการกะระยะมากขึ้น การะเปิดเส้นแบ่ง Grid สามารถเปิดได้จาก Quick Bar

สำหรับการถ่ายภาพในมุม Landscape หรือ Portrait (มุมมองปกติ) เมื่อผู้ใช้ถือ iPhone เป็นเส้นตรงขนานกับพื้นโลก จะมีกรอบสีเหลืองแสดงขึ้นบนกลางจอ พร้อมกับตัว iPhone ที่จะสั่นเล็กน้อยเพื่อเตือนว่าเครื่องตั้งตรงแล้ว

และเมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพในมุมจากด้านบน อย่างการถ่ายภาพอาหาร ตัวแอพ Halide จะมีการแสดงวงกลม 2 วงตรงกลางจอ โดยถ้า iPhone อยู่ในระดับขนานพอดีวงกลงสองวงนี้จะมารวมกันตรงกลางจอพอดี

ตอนนี้ก็ได้รู้จักตัวช่วยให้คุณถ่ายภาพง่ายขึ้นอีกตัวแล้ว ทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องภาพจะเอียง แล้วดูไม่สวยอีกต่อไป

By |2021-01-26T00:55:31+07:002021-01-10|Tags: , , |Comments Off on Halide | Grid และ Level ตัวช่วยให้ถ่ายภาพง่ายขึ้น

Halide | ไฟล์ RAW, ProRAW+ และการปรับแต่ง Instant RAW

หลังจากที่เรารู้จักการตั้งค่า Halide และได้ไฟล์ RAW มาแล้ว วันนี้มาทำความรู้จักไฟล์ RAW เพิ่มอีกนิดดีกว่า

โดยปกติของไฟล์ RAW จะไม่ได้ดูดีเหมือนไฟล์ที่ถูกปรับแต่งมาแล้วเหมือน JPG นะครับ อย่าพึ่งสับสน ไฟล์ RAW ถึงจะเก็บข้อมูลมาครบ แต่ตามชื่อของมันแล้วคือไฟล์ดิบที่ยังไม่ผ่านการปรับแต่ง

ขั้นแรกลองมาดูไฟล์ที่เราถ่ายมาใน Halide ก่อน กดไปที่รูปที่เราพึ่งถ่ายมา ถ้าเป็นไฟล์ RAW จะมีไฟล์ประเภท DNG ถ้าลองสังเกตุดูไฟล์ RAW จะมืด และสีไม่ได้สดเหมือนไฟล์อย่าง JPG หรือ HEIC

แค่ปรับแต่งเล็กน้อยจะทำให้ไฟล์ RAW สวยขึ้นได้ และไฟล์ RAW ยังรองรับการปรับแต่งที่หลากหลายด้วย สำหรับมือใหม่แนะนำให้ลองใช้ Darkroom ซึ่งเป็นแอพที่ทำงานร่วมกับไฟล์ RAW จาก Halide ได้เป็นอย่างดี หรือใครที่มีความชำนาญแล้วก็อาจจะใช้แอพอืนที่นิยมอย่าง Lightroom ก็ได้ครับ

หรือสำหรับใครที่อาจจะเป็นมือใหม่หรือไม่มีเวลาปรับแต่งอาจจะลองใช้ความสามารถ Instant RAW ของ Halide เองก็ได้ โดยแอพ Halide จะใช้ ai ประมวลผลไฟล์ RAW ให้โดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับแต่งเพิ่มเติม

เมนู Instant RAW จะอยู่มุมบนขวาของไฟล์ DNG บนแอพ Halide แค่กดครั้งเดียวก็จะได้ไฟล์ RAW ที่ผ่านการปรับแต่งมาแล้ว และผู้ใช้สามารถ export เป็นไฟล์ JPG ผ่านเมนู Share จากหน้านั้นได้เลย

ขอให้สนุกกับการปรับแต่งไฟล์ RAW และพบแนวทางของตัวเองนะครับ

By |2021-01-26T00:55:37+07:002021-01-08|Tags: , , , |Comments Off on Halide | ไฟล์ RAW, ProRAW+ และการปรับแต่ง Instant RAW

Halide | ถ่ายภาพ RAW เพื่อนำไปปรับแต่งต่อ

วันนี้เราจะมาเพิ่มพลังให้การถ่ายภาพ (และการแต่งภาพ) โดยการถ่ายภาพแบบ RAW กันครับ

ค่าเริ่มต้นของ Halide เวลาถ่ายภาพจะถ่ายทีละ 2 ช็อต ภาพแรกคือภาพถ่ายแบบปกติ และอีกภาพจะถ่ายแบบ RAW

การเปิดใช้งาน RAW บน Halide ทำได้โดยการกดไอคอน RAW บน Quick Bar

ภาพแรกคือภาพปกติโดยจะเซฟเป็นฟอร์แมต JPG หรือ HEIC แล้วแต่ผู้ใช้จะเลือก ภาพถ่ายจะมีการปรับแต่งมาแล้วทั้งสี คอนทราส ฯลฯ การจะมาปรับแต่งตอนหลังทำได้ไม่มาก เช่นการเร่งคอนทราส หรือเร่งสีมากๆ จะทำให้ภาพสีแตก ส่วนภาพที่สองซึ่งเป็นไฟล์ RAW คือเก็บข้อมูลภาพมาให้เยอะที่สุดและสามารถนำมาปรับแต่งภายหลังได้หลากหลาย

ไฟล์ RAW จะเก็บข้อมูลของภาพจำนวนมากทั้งค่าสี ความมืด ความสว่าง เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการปรับแต่งภาพภายหลัง

ข้อแตกต่างอีกอย่างของไฟล์ JPG/HEIC คือมีขนาดเล็กเพราะมีการตัดข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ออกไปแล้ว ส่วนไฟล์ RAW จะมีไฟล์ใหญ่เพราะยังเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ครบ และข้อสังเกตอีกอย่างของไฟล์ RAW คือภาพเดิมๆ อาจจะไม่สวยงามเท่า JPG/HEIC ด้วยครับ

โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าการถ่ายภาพเพิ่มเติมได้อีกหลายแบบในเมนู Settings

สำหรับการตั้งค่าเพิ่มเติมสามารถเข้าไปใน Settings > Capture ซึ่งในเมนูนี้สามารถเลือกการตั้งค่าได้ทั้ง RAW, RAW+, MAX, HEIC และ JPG ได้ โดยในเวอร์ชั่นล่าสุด Halide ยังรองรับ ProRAW แบบเดียวกับกล้องของ iPhone 12 Pro และยังมีการเพิ่มโหมด ProRAW+ ที่มีเฉพาะใน Halide ด้วย

สำหรับ ProRAW คือเทคโนโลยีใหม่ที่มาพร้อมกับ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max โดยนอกจากจะเก็บข้อมูลแบบไฟล์ RAW ทั่วไปแล้วยังมีการเพิ่มความสามารถที่มีเฉพาะบน iPhone อย่าง Deep Fusion, Night Mode และเทคโนโลยี Smart HDR เข้าไปในภาพด้วย ส่วน ProRAW+ นั้นสามารถใช้งานได้เฉพาะใน Halide เท่านั้นโดยมีการถ่ายภาพที่มีทั้ง JPG ที่มีการปรับแต่งโดยแอพแล้ว และ ProRAW เข้าไว้ในไฟล์เดียวกัน

หรือถ้าต้องการเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพอย่างรวดเร็วก็สามารถกดค้างบนไอคอน RAW บน Quick Bar แอพ Halide จะมีเมนู RAW แบบต่างๆ มาให้เปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วด้วย

ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพ และปรับแต่งไฟล์ RAW นะครับ

By |2021-01-26T00:55:42+07:002021-01-05|Tags: , , , |Comments Off on Halide | ถ่ายภาพ RAW เพื่อนำไปปรับแต่งต่อ

Halide | ทำความรู้จักระบบโฟกัส

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับแอพ Halide และการใช้งานเมนูเบื้องต้นกันแล้ว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักระบบโฟกัสแบบต่างๆ ของ Halide กัน

Manual Focus

โดยปกติ iPhone ของเราจะรู้อยู่แล้วว่าจะโฟกัสวัตถุอะไรบนหน้าจอ แต่ในบางครั้งการถ่ายรูปอาจจะต้องการโฟกัสวัตถุอื่น จึงต้องพึ่งระบบ Manual Focus การกดไปจุดที่ต้องการโฟกัส บางครั้งเราต้องการจะโฟกัสไปที่ตัวแมลงที่เกาอยู่บนดอกไม้ การล็อคโฟกัสจะช่วยทำให้ภาพแมลงนั้นคมชัดมากขึ้น

เริ่มใช้งาน Manual Focus

หน้าจอ Halide จะเปิดมาพร้อมกับระบบ AF หรือ Auto Fucus อยู่แล้ว การเปิด Manual Focus ทำได้โดยการกดที่ปุ่ม AF หรือปัดเลื่อนปุ่มไปทางขวาก็ได้ ระบบ Manual Focus จะทำงานเหมือนกับวงแหวนโฟกัสบนเลนส์กล้องถ่ายรูป DSLR หรือ Mirror Less ทั่วไป โดยระบบ Manual Focus บน Halide จะมีตัวช่วยอยู่สองตัวคือ

1. Focus Loupe

Focus Loupe หรือแว่นขยายที่จะช่วยให้เรามองเห็นจุดที่ต้องการโฟกัสใกล้และชัดขึ้น ถ้าไม่ชอบก็สามารถกดที่ไอคอนของ Focus Loupe เพื่อปิดได้

2. Focus Peaking

ระบบนี้แอพ Halide จะตรวจหาส่วนที่คมชัดบนภาพที่กำลังโฟกัสแล้วไฮไลท์เป็นเส้นสีเขียว โดยสามารถกดเปิดไว้ตลอด หรือเปิดแบบ Auto เฉพาะตอนที่เราหมุนวงแหวนโฟกัสก็ได้

สำหรับมือใหม่ระบบ Manual Focus อาจจะไม่ค่อยเป็นประโยชน์มากนะครับ เพราะระบบ Auto Focus ของ iPhone เองก็ทำงานได้ดีอยู่แล้ว แต่ในการถ่ายรูปบางครั้งก็ต้องการรายละเอียดการโฟกัสที่ ai ไม่เข้าใจก็ได้ เพื่อให้ได้ภาพที่แปลกตามากขึ้น

By |2021-01-26T00:55:46+07:002021-01-04|Tags: , , |Comments Off on Halide | ทำความรู้จักระบบโฟกัส

แนะนำ Halide Mark II

ขอแนะนำให้รู้จัก Halide Mark 2 อ่านว่า ฮาไลด์ ha·laid เป็นแอพถ่ายภาพมีเฉพาะบน iOS มีความพิเศษคือมีโหมดถ่ายภาพ manual ที่ให้ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่ากล้องเองได้มากกว่ากล้องถ่ายรูปของ iPhone และยังสามารถถ่ายภาพ ProRaw และ ProRaw+ ที่มีเฉพาะบน Halide อีกด้วย หน้าตาแอพใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน โดยตัวแอพจะเน้นใช้ความสามารถของ hardware ของตัวกล้องจริงๆ มากกว่าใช้ ai เข้ามาช่วย ทำให้ตัวแอพจะมีข้อจำกัดในการถ่ายภาพบางอย่างที่ไม่เหมือนแอพกล้องทั่วไป เช่นการควบคุม speed shutter จะทำได้สูงสุดที่ 1 วินาทีเท่านั้นตามความสามารถของกล้อง iPhone และที่สำคัญ Halide เป็นแอพสำหรับถ่ายรูปเท่านั้นไม่สามารถถ่ายวิดีโอได้

Halide Mark 2 Features

  • หน้าตา และเมนูที่เข้าใจง่าย ใช้งานมือเดียวได้
  • มีโหมด Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอบน iPhone รุ่นที่รองรับ
  • ระบบ Manual Focus พร้อมระบบช่วยเหลือ Focus Loupe, Focus Peaking
  • ระบบ Manual Exposure สามารถควบคุม speed shutter, ISO และ White Balance ได้
  • มีหน้าจอ Histogram, XDR 14 bit และ Zebra Stripes ช่วยในการคำนวนปริมาณแสง
  • เลือกไฟล์ฟอร์แมตได้ทั้ง RAW, TIFF, HEIC, JPG
  • Grid เส้นแบ่งภาพ ระบบ Level วัดระดับความตรงทั้งมุมปกติและมุมสูง
  • Gallery หรือ Preview ที่สามารถดูรายละเอียดภาพได้มากกว่าแอพของ iOS เช่น ขนาดภาพ, ความลึกของภาพ Portrait
  • ระบบปรับแต่งไฟล์ RAW อัตโนมัติ
  • Technical Readout อ่านสเปคกล้องของ iPhone เครื่องนั้นได้
  • มีแอพบน Apple Watch ไว้ใช้เป็นรีโมทถ่ายรูปได้
  • ทำงานร่วมกับ Siri ใช้สั่งถ่ายภาพผ่าน Siri ได้
  • HDR, Smart HDR, Deep Fusion และไฟล์ DNG RAW ถ่ายสองภาพพร้อมกันโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
  • ปกป้องความเป็นส่วนตัวโดยการตัดข้อมูลอย่างสถานที่ออกจากภาพถ่าย

เริ่มใช้งาน Halide Mark 2 รู้จักเมนูของแอพ

Photo from halide.cam
  1. Viewfinder หรือช่องมองภาพ สามารถกดที่หน้าจอเพื่อเลือกตำแหน่งโฟกัสได้เหมือนแอพกล้องทั่วไป ปรับความมืดหรือสว่าง exposure ได้โดยการปัดหน้าจอขึ้นหรือลงจากหน้านี้
  2. Quickbar สำหรับเลือกเมนูต่างๆ เช่น เปิด/ปิดเส่นแบ่ง ตั้งเวลาถ่ายรูป เมนูตั้งค่า และผู้ใช้สามารถสลับตำแหน่งของปุ่มตามความเหมาะสมได้ด้วย
  3. ปุ่มชัตเตอร์
  4. สวิทช์ Auto Focust/Manual Focus
  5. สวิทช์เลนส์กล้อง สามารถกด 1 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเลนส์หรือกดค้างแล้วเลือกเลนส์ที่ต้องการได้
  6. Gallery ใช้ดูภาพที่ถ่ายไว้โดย Halide และภาพที่อยู่ใน Gallery ทั้งหมดโ ดย Gallery ของ Halide ยังสามารถดูรายละเอียดของภาพอื่นๆ เช่นขนาดภาพ ฟอร์แมตของไฟล์ได้ด้วย

Halide Mak 2 เปิดให้โหลดฟรีบน App Store สามารถทดลองใช้งานได้ 7 วันหลังจากนั้นต้องจ่ายเป็นรายปี ปีละ 369 บาทครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม halide.cam
ดาวน์โหลด Halide Mark 2

By |2021-01-26T15:36:01+07:002021-01-03|Tags: , , , |1 Comment

The Eisenhower Matrix

Dwight D. Eisenhower เป็นผู้นำของกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นประธานาธิบดีคนที่ 34 ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีความสามารถในการบริหารจัดการได้ดีมากคนหนึ่ง

ผลงานสำคัญในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสองสมัยของสหรัฐอเมริกา เช่นการก่อตั้ง Interstate Highway System, ก่อตั้งองค์การ NASA, เซ็นร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนหลังจากจบสงครามกลางเมือง, จบสงครามเกาหลี, รวมอลาสก้า และฮาวายเข้าร่วมประเทศอเมริกา และการต่อสู้ในสงครามเย็นกับรัสเซีย

เหตุผลที่ Eisenhower สามารถประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ และโลก เพราะเขาเข้าใจความแตกต่างระหว่างความเร่งด่วน และความสำคัญ เขาเคยพูดในปี 1954 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง “ผมมีปัญหาอยู่สองอย่างคืองานด่วน และงานสำคัญ งานด่วนไม่ใช่งานสำคัญ และงานสำคัญไม่เคยเร่งด่วน”

หลังจากนั้นอีก 3 ทศวรรษ Stephen Covey ได้นำวิธีบริหารเวลาของ Eisenhower มาพูดถึงในหนังสือขายดีของเขาที่ชื่อ 7 Habits of Highly Effective People โดยวิธีบริหาเวลาของ Eisenhower เป็นที่รู้จักในชื่ออื่นๆ เช่น Eisenhower Matrix, The Time Management Matrix, The Eisenhower Box, The Eisenhower Method, The Urgent-Important Matrix โดยวิธีบริหารเวลาของ Eisenhower นี้จะเป็นตัวช่วยให้เราต่อสู้กับงานเร่งด่วน ต่อสู้กับตัวทำลายเวลาในชีวิต และสร้างความโล่งใจในการทำตามเป้าหมาย

ลองใช้ Eisenhower Matrix ถ้าคุณ…

  • พบว่าคุณใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่ไปกับการดับไฟ (เป็นคำเปรียบเปรย หมายถึงงานเร่งด่วน)
  • ทำงานเสร็จเยอะแต่รู้สึกว่างานไม่ส่งผลกับเป้าหมาย
  • มีเป้าหมาย แต่ไม่ค่อยมีพลังหรืออยากทำตามเป้าหมาย
  • ประสบปัญหาในการแจกจ่ายงานหรือปฏิเสธคำขอของคนอื่น
  • อยากเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าทำไมจึงควรแยกให้ออกระหว่างงานด่วนกับงานที่สำคัญ และการนำ Eisenhower Matrix มาประยุกต์ใช้กับการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะยาว หรืองานที่ทำในแต่ละวัน

รู้จักกับ The Mere-Urgency Effect ต้นเหตุความผิดพลาดของจัดลำดับความสำคัญ

มีผลวิจัยของ The Journal of Consumer Research ที่ทำขึ้นเพื่อตรวจสอบว่าคนทั่วไปจะเลือกทำงานอะไรก่อนเมื่อมีงานทั้งสองแบบ แบบเร่งด่วน และงานสำคัญมีการทดลอง 5 แบบ โดยผู้ทำการทดสอบพบว่าผลที่ได้เหมือนกัน: คนให้ความสนใจกับงานที่มีระยะเวลามากกว่างานที่มีงานด่วนน้อยกว่า แม้ว่างานที่ไม่เร่งด่วนนั้นจะให้รางวัลตอบแทนมากกว่า ในทางจิตวิทยาเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า The Mere-Urgency Effect เป็นการอธิบายว่าทำไมเราถึงมักทำผิดพลาดในการจัดลำดับความสำคัญ ทั้งการจัดการงาน และเวลา คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับงานที่มีกำหนดการ (deadline) มากกว่างานที่ไม่ได้กำหนดระยะเวลาแต่ส่งผลในระยะยาว

The Mere-Urgency Effect มักจะพบได้บ่อยในคนที่บอกว่าตัวเองเป็นคนยุ่ง ในการทดลองนี้พบว่าคนที่คิดว่าตัวเองยุ่งจะเลือกทำงานเร่งด่วนที่ส่งผลน้อยก่อน เพราะพวกเขาได้กำหนดเวลาให้กับงานนั้นแล้ว และเมื่องานกำลังจะเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็จะหางานอื่นมาทำเพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกยุ่งอยู่

ในทางกลับกัน ถ้าให้ผู้เข้ารับการทดสอบเห็นผลที่จะตามมาจากสิ่งที่พวกเขาเลือก คนส่วนใหญ่จะเลือกงานที่สำคัญมากกว่างานที่เร่งด่วน จากการทดสอบนี้แนะนำให้เราคอยทบทวนเป้าหมายระยะยาวบ่อยๆ จะช่วยให้เราสามารถเอาชนะกับดักความเร่งด่วน และให้ความสำคัญกับงานสำคัญมากกว่าได้

The Eisenhower Matrix – งานเร่งด่วน VS งานสำคัญ

The Eisenhower Matrix เป็นเครื่องมือง่ายๆ ที่จะช่วยในการตัดสินใจในการทำงานในแต่ละวันว่าจะทำสิ่งที่ส่งผลต่อเป้าหมาย หรือความต้องการของชีวิต ไม่ใช่แค่ปริมาณงานที่ทำเสร็จ โดยมีการแบ่งงานเป็นสองประเภทระหว่างงานสำคัญ และงานเร่งด่วน โดยงานทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็น 4 กลุ่มได้แก่

  • สำคัญ+เร่งด่วน งาน หรือโปรเจ็คที่จะต้องทำให้เสร็จตอนนี้
  • สำคัญ+ไม่เร่งด่วน งาน หรือโปรเจ็คที่ต้องวางแผนที่จะลงมือทำ
  • ไม่สำคัญ+เร่งด่วน งาน หรือโปรเจ็คที่สามารถกระจายไปให้คนอื่นทำ
  • ไม่สำคัญ+ไม่เร่งด่วน คืองานที่เสียเวลาที่จะทำ เพราะไม่ได้ส่งผลอะไร ถ้าเลือกได้ควรตัดออก

ในความเป็นจริงแล้วการแยกแยะว่างานชิ้นไหนเป็นงานสำคัญไม่สำคัญ หรืองานไหนเร่งด่วน ไม่เร่งด่วนนั้นทำได้ยาก Steven Covey ได้แบ่งไว้ตามนี้

งานเร่งด่วน คืองานที่ต้องการการทำทันที ต้องการการทำหรือสนใจตอนนี้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นงานที่ยังทำไม่เสร็จ งานด่วนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เสียเวลาทำมาก ทำให้เกิดความเครียด และทำให้เบิร์นเอาท์ได้
งานสำคัญ คืองานที่ส่งผลต่อเป้าหมายระยะยาว ต้องการการวางแผน และคิดให้มาก เมื่อคุณสนใจงานสำคัญ สามารถควบคุมได้ทั้งเวลา พลังงาน และความสนใจได้ งานสำคัญต้องกำหนดเอง ไม่มีใครมาช่วยกำหนดให้ได้

บทความนี้ผมแปลจาก The Eisenhower Matrix Avoid the “Urgency Trap” with Dwight D. Eisenhower’s famous prioritization framework บทความเต็มๆ ค่อนข้างยาวครับจึงขอแบ่งเป็นหลายๆ บท ถ้าใครถนัดภาษาอังกฤษก็สามารถตามไปอ่านจากต้นทางได้เลย ส่วนใครไม่ถนัด หรือรอได้ก็ติดตามอ่านได้จากแท็ก the-eisenhower-matrix ครับ

By |2021-01-26T00:56:04+07:002020-09-14|Tags: , |0 Comments
Go to Top